汉语 趣谈

汉语趣谈

การอ่านตัวเลขในภาษาจีน ตอนที่ 2

เกร็ดความรู้ภาษาจีนกลับมาพบทุกท่านอีกครั้ง เมื่อครั้งที่แล้วในตอนที่ 1 ได้นำเสนอการอ่านตัวเลข 1-100 เป็นภาษาจีนไปแล้ว ซึ่งเป็นการอ่านหรือบอกจำนวนในภาษาจีนที่สามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้โดยทั่วไป และครั้งนี้เราจะต่อกันที่จำนวนต่อไปกันเลย จะมีความยากง่าย แตกต่างจากเดิมอย่างไร มาเริ่มกันเลย

หลักพัน
1,000一 千Yī qiān (อี้ เชียน)
หลักหมื่น
10,000一 万Yī wàn(อี๋ ว่าน)
หลักแสน
100,000十 万 shí wàn (สือ ว่าน)
200,000 二 十 万èrshí wàn(เอ้อร์ สือ)
หลักล้าน
1,000,000一 百 万Yī bǎi wàn(อี้ ป่าย ว่าน)

ข้อสังเกต

จะเห็นได้ว่าคำอ่านภาษาไทยของตัวเลขที่ยกตัวอย่างในหลักพัน และหลักหมื่น เสียงวรรณยุกต์ก็จะต่างไปจากเดิม สาเหตุมาจากกฎการผันเสียงวรรณยุกต์ของเลข 1 ค่ะ ในกรณีของหลักพัน คือ เสียงวรรณยุกต์เสียงที่หนึ่งของเลข 1 ชนกันกับเสียงหนึ่งของคำหลัง เวลาอ่านจึงผันเป็นเสียงที่สี่ทันที ดังนั้น อีเชียน จึงออกเสียงเป็นอี้เชียน ส่วนในหลักหมื่นก็คือ เสียงหนึ่งชนกับเสียงสอง จึงผันเป็นเสียงสองทันที ดังนั้น อีว่าน จึงออกเสียงเป็น อี๋ว่าน พอผันเสียงแบบนี้แล้ว ดูฟังง่าย และออกเสียงง่ายกว่ากันมาก



** วิธีการอ่าน และนับจำนวนเพิ่มเติม การอ่านเลข 2 จะมีอยู่สองกรณี

1. 二 èr (เอ้อร์) มักจะเจอในการอ่านหรือ การนับจำนวนหลักหน่วย และหลักสิบ แล้วทำไมในหลักแสนที่ยกตัวอย่างมา ถึงอ่านว่า เอ้อร์สืออู่วว่าน (250,000) กันล่ะ? นั่นเป็นเพราะว่าการอ่านหลักแสนในภาษาจีน จะใส่จุดไว้หน้าหลักพัน (ซึ่งตัวที่อยู่ด้านหน้าหลักพันคือหลักหมื่น หรือก็คือ 万ว่าน นั่นเอง) แล้วนับขึ้นไปว่าตัวเลขตัวซ้ายมือสุดอยู่ในหลักใด ตามตัวอย่างคือ 250000 >> 25.0000 ซึ่งเมื่อใส่จุดแล้ว เลข 2 จะถูกเทียบอยู่ในหลักสิบ ดังนั้นจึงอ่านว่า เอ้อร์สืออู่วว่าน 二十五万

2. 两 liǎng (เหลี่ยง) มักจะใช้อ่านจำนวนนับ ซึ่งรวมไปถึงคน สัตว์ สิ่งของด้วย เช่น

两个人liǎng ge rén(เหลี่ยงเก้อเหริน)(คน) 2 คน
三本书sān běn shū(ซานเปิ่นชูว) หนังสือ 3 เล่ม
一只狗Yī zhǐ gǒu (อี้จือโก่ว) สุนัข 1 ตัว

การอ่านหลักพัน ให้อ่านจำนวนหลักพันก่อน แล้วตามด้วยหลักร้อย หลักสิบ และหลักหน่วย ดังนี้

1,200=一千两百Yīqiān èrbǎi(อี้เชียน เอ้อร์ป่าย)
2,340=两千三百四十liǎngqiān sānbǎi sìshí (เหลี่ยงเชียน ซานป่าย ซื่อสือ)

การอ่านหลักหมื่น หลักแสน และหลักล้านเป็นต้นไป ให้อ่านตามลำดับ ดังนี้้

31,223=三万一千两百二十三sānwàn yīqiān èrbǎi èrshísān (ซานว่าน อี้เชียน เอ้อร์ป่าย เอ้อร์สือซาน)
955,555=九十五万五千五百五十五 jiǔshíwǔ wàn wǔqiān wǔbǎi wǔshíwǔ(จิ่วสืออู่วว่าน อู่วเชียน อู๋วป่าย อู่วสืออู่ว)
2,341,234=两百三十四万一千两百三十四liǎng bǎi sānshísìwàn yīqiān èrbǎi sānshísì (เหลียงป่าย ซานสือซื่อว่าน อี้เชียน เอ้อร์ป่าย ซานสือซื่อ)

เป็นอย่างไรกันบ้าง พอจะเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องของตัวเลขและการอ่านจำนวนกันบ้างหรือไม่ หลายๆท่านคงจะยังสงสัยว่า แล้วตัวเลขหรือพวกการอ่านจำนวนมีความจำเป็น หรือความสำคัญอย่างไร ตอบได้ง่ายๆเลยว่า สำคัญสำหรับการใช้ในชีวิตประจำวันมาก ฉะนั้นฝึกฝนกันมากๆ จะได้คล่องแคล่ว

การอ่านตัวเลขในภาษาจีน ตอนที่ 1


ภาษาจีนเข้ามามีบทบาทในประเทศไทยมากขึ้น ดังนั้นในปัจจุบันจึงมีการเรียนการสอนภาษาจีนเพิ่มขึ้นตามไปด้วย ไม่ว่าจะเป็นเรียนตามสถาบันกวดวิชาต่างๆเพื่อให้สามารถสื่อสารภาษาจีนได้ หรือตามสถานศึกษาต่างๆได้บรรจุวิชาภาษาจีนลงไปในการเรียนการสอน เพื่อให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ทั้งภาษา และวัฒนธรรม ซึ่งรวมไปถึงผู้ที่มีความชื่นชอบในด้านต่างๆของประเทศจีน ผู้ที่ทำการค้ากับชาวจีน หรือผู้ที่กำลังศึกษาภาษาจีนด้วยตนเอง ด้วยเหตุผลที่กล่าวมาข้างต้น จึงมีเกร็ดความรู้สำหรับผู้ที่สนใจภาษาจีนมาให้ได้อ่านกัน

จะเริ่มต้นกันที่ ตัวเลข หรือการนับเลขในภาษาจีนกลาง ซึ่งบางท่านอาจจะยังไม่ทราบว่าการอ่านตัวเลขตามป้ายราคาสินค้า หรือการนับเลขในภาษาจีนกลางที่เราสามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันนั้นเป็นอย่างไร และจะยากหรือไม่ ลองมาดูกัน กับการอ่านตัวเลขในภาษาจีน ตอนที่ 1



หลักหน่วย

1 2 3 4 5 6 7 8 9 0
èr sān liù jiǔ ling


หลักสิบ

10 20 30 40 50 60 70 80 90
二十 三十 四十 五十 六十 七十 八十 九十
shí èrshí sānshí sìshí wǔshí liùshí qīshí bāshí jiǔshí


หลักร้อย

100 200 300 400 500 600 700 800 900
一百 二百、两百 三百 四百 五百 六百 七百 八百 九百
yībǎi èrbǎi,liǎngbǎi sānbǎi sìbǎi wǔbǎi liùbǎi qībǎi bābǎi jiǔbǎi


ข้อสังเกต

กรณีการอ่าน 200 500 และ 900 จากคำอ่านภาษาไทย จะเห็นได้ว่าวรรณยุกต์ไม่ตรงกับตัวพินอิน(ตัวอ่านภาษาจีนที่เป็นอักษรโรมัน) เพราะในกฎการผันเสียงวรรณยุกต์ของภาษาจีนนั้นมีอยู่ว่าเมื่อเสียงสามอยู่ติดกันเวลาที่อ่านคำแรกหรือคำที่อยู่ด้านหน้าจะผันเป็นเสียงสองทันทีแต่รูปการเขียนไม่เปลี่ยนแปลง



*** วิธีการอ่าน และนับจำนวนเพิ่มเติม

การอ่านหลักสิบ ให้อ่านจำนวนหลักสิบก่อน แล้วตามด้วยหลักหน่วย ดังนี้

12=十二Shí'èr
24=二十四Èr shí sì
45=四十五Sì shí wǔ


การอ่านหลักร้อย ให้อ่านจำนวนหลักร้อยก่อน แล้วตามด้วยหลักสิบกับหลักหน่วย ดังนี้

130=一百三十Yī bǎi sān shí
189=一百八十九Yī bǎi bā shí jiǔ


และจะแบ่งออกเป็นกรณีพิเศษ ดังนี้

1. เมื่ออ่านตัวเลขหลักร้อยที่มีเลข " 0 " อยู่ตรงกลาง

101=一百零一Yībǎi língyī
405=四百零五Sìbǎi língwǔ

2. เมื่ออ่านตัวเลขที่ขึ้นต้นด้วยเลข " 2 " ตั้งแต่หลักร้อยขึ้นไป

200=两百Liǎng bǎi
222=两百二十二Liǎng bǎi èrshí'èr
2,008=两千零八Liǎng qiān líng bā
250,000=二十五万Èrshíwǔ wàn

การอ่านตัวเลข 1-100 เป็นภาษาจีนไม่ยาก แล้วก็ไม่ง่ายไปซะทีเดียว การเรียนรู้ภาษาต้องฝึกฝนบ่อยๆ ส่วนในตอนต่อไปของการอ่านตัวเลขในภาษาจีนนั้น จะมีอะไรมาอธิบายเพิ่มเติมรอติดตาม กับ " การอ่านตัวเลขในภาษาจีน ตอนที่ 2 "

สำนวน ภาษาจีนที่ใช้บ่อย (IDIOM)
常 用 成 语
Cháng yòng chéng yǔ



1.一 见 钟 情
Yī jiàn zhōng qíng
รักแรกพบของหญิงสาว
2.一 路 平 安
Yī lù píng' ān
คำอวยพรให้กับผู้เดินทาง
3.一 年 一 度
Yī nián yī dù
ปีละครั้ง

สัญลักษณ์การนับนิ้วของจีน


คำอวยพรภาษาจีน

生日快乐 shēng rì kuài lèแปลว่า สุขสันต์วันเกิด
shēngแปลว่า เกิด
แปลว่า วัน , วันที่ , พระอาทิตย์
生日shēng rìแปลว่า วันเกิด
kuàiแปลว่า เร็ว, รวดเร็ว, ฉับไว
แปลว่า มีความสุข, เป็นสุข, ปลื้มปิติยินดี
快乐kuài lèแปลว่า มีความสุข, เป็นสุข
生日快乐shēng rì kuài lèแปลว่า มีความสุขในวันเกิด, สุขสันต์วันเกิด

สุขสันต์วันเกิด 生日快乐 ทุกๆคน

ตัวอย่างการใช้คำศัพท์

ภาษาจีน学问 Xué wèn เป็นคำนาม
ความหมาย แปลว่า “วิชาความรู้”
ส่วนประกอบ ประกอบด้วย 学 แปลว่า เรียน 问 แปลว่า ถาม เป็นคำศัพท์ที่ง่ายๆแต่มีความหมายลึกซึ้ง กล่าวคือ การจะเรียนให้สำเร็จหากไม่เข้าใจต้องถาม เมื่อถามและเรียนเข้าใจแล้วต้องสอนคนอื่นให้เข้าใจด้วย
ตัวอย่างการใช้ 只要你弄懂了 ‘学问’ 你就有了学问, 自然 ‘知识就是力量’ 了嘛!
Zhǐ yào nǐ nòng dǒng le ‘xué wèn’ nǐ jiù yǒu le xué wèn, zì rán ‘zhī shì jiù shì lì liàng’ le ma!

也就成功了!
Yě jiù chéng gōng le!
เพียงแค่คุณทำความเข้าใจเกี่ยวกับ学问 คุณก็จะมีวิชาความรู้ ซึ่งโดยธรรมชาติแล้วความรู้คือพลังนำไปสู่ความสำเร็จ

สุภาษิตจีนน่ารู้

学习根苦果甜
Xuéxí gēn kǔguǒ tián
การเรียนรู้ที่ขมขื่นนั้นให้ผลที่หอมหวาน

ระบบการออกเสียง

ระบบการออกเสียงของจีนกลางในปัจจุบัน เรียกว่าพิณอิน ( p7ny7n ) ซึ่ง พิณ ( p7n ) แปลว่าการสะกด ส่วน อิน ( y7n ) แปลว่า เสียง ประกอบด้วย 3 ส่วน คือ เสียงพยัญชนะต้น เสียงสระ และเสียงวรรณยุกต์


ในครั้งนี้เราจะกล่าวถึงการเทียบเสียงพยัญชนะต้น
อักษรออกเสียงตัวอย่างคำแปลว่า
bแปด
pพ/ผกลัว
mม้า
fฟ/ฝfāngสถานที่
dใหญ่
tท/ถเขา
nเธอ
lถนน
zzuòนั่ง
cช/ฉเช็ด
sซ/ศสี่
zhจรzhèนี้
chชร/ฉรcháชา
shชร/สรshíสิบ
rยรพระอาทิตย์
jjiǔเก้า
qช/ฉเจ็ด
xซ/สxuéเรียน
ggēgēพี่ชาย
kkǒuปาก
hฮ/หhǎoดี
yย/อหนึ่ง
wว/อห้า


อักษรที่ออกเสียง จ ช/ฉ และ ซ/ส ใช้แทนเสียงได้หลายเสียง ดังนี้
- เสียงที่ออกเสียง จแทนเสียง j จี zh จรือ z จือ
- เสียงที่ออกเสียง ช/ฉแทนเสียง q ชี ch ชรือ c ชือ
- เสียงที่ออกเสียง ซ/สแทนเสียง x ซี sh ซรือ s ซือ
เสียง y และ เสียง w ออกเสียงใกล้เคียงกันระหว่าง ย กับ อ และ เสียง ว กับ อ ในการออกเสียงภาษาไทยบางครั้ง y อาจสะกดด้วย ย และบางครั้งสะกดด้วย อ เช่นเดียวกับเสียง w บางครั้งสะกดด้วยเสียง ว และบางครั้งสะกดด้วยตัว อ ซึ่งอยู่กับความใกล้เคียงกับเสียงจากการสะกดเป็นภาษาไทย

อักษรมงคล 8 ประการ

( zhōng ) ( xiào ) ( rén ) ( ài )
    
( lǐ ) ( yì ) ( lián ) ( chǐ )
    


8 คำนี้ เป็นคำที่ชาวจีนสมัยก่อนได้รับการอบรมให้ยึดมั่นปฏิบัติเพื่อเป็นหลักธรรมสำคัญประจำใจตลอดชีวิต จึงจะสมชื่อที่ว่าเป็นผู้ที่มีการศึกษาดี ซึ่งแต่ละคำก็มีหลักธรรมที่น่าจดจำและนำไปปฏิบัติตาม เมื่อครั้งก่อนได้นำเสนอไปแล้ว 4 คำ ดังนี้

( zhōng ) ( xiào ) ( rén ) ( ài )

ครั้งนี้จะได้นำเสนออีก 4 คำ สุดท้าย คือ

( lǐ ) หมายถึง ขนบธรรมเนียมและพิธีกรรรมอันเป็นที่นิยมว่าถูกต้องและงดงามในสังคมที่ตกทอดมาแต่โบราณ

( yì ) หมายถึง สัจจะ 1 ในคุณธรรม 8 ข้อ ของชาวจีนที่แสดงออกด้วยความยึดมั่น ไม่ทิ้งเพื่อนในยามยากหรือในยามมีภัยและต่อสู้เพื่อความถูกต้องอย่างเด็ดเดี่ยว

( lián ) หมายถึง ความสันโดษมักน้อยความไม่โลภซึ่งเป็นคุณธรรมของขุนนางจีนสมัยโบราณ และเป็นคุณธรรมที่หล่อเลี้ยงความซื่อสัตย์สุจริตของชาวจีน

( chǐ ) หมายถึง ความละอายคล้ายหิริโอตัปปะคนที่มีความละอายใจอยู่ในกมลสันดาลนั้นก็จะมีหลักเหนี่ยวรั้งจิตใจไม่ให้กระทำใดๆไปตามกิเลสทะยานอยากของตน

สุภาษิตจีนน่ารู้

无 道 人 之 短,无 说 己 之 长。

wú dào rén zhī duǎn, wú shuō jǐ zhī zhǎng.



施 人 慎 勿 念,受 施 慎 勿 忘。

shī rén shèn wù niàn, shòu shī shèn wù wàng.



世 誉 不 足 慕,唯 仁 为 纪 纲。

Shì yù bù zú mù, wéi rén we2i jì gāng.



隐 心 而 后 动,谤 议 庸 何 伤?

Yǐn xīn ér hòu dòng, bàng yì yōng hé shāng?



无 使 名 过 实,守 愚 圣 所 臧。

Wú shǐ míngguò shí, shǒu yú shèng suǒ zāng.



在 涅 贵 不 淄,暧 暧 内 含 光。

Zài niè guì bù zī, ài ài nèi hán guāng.



柔 弱 生 之 徒,老 氏 诫 刚 强。

Róuruò shēng zhī tú, lǎo shì jiè gāng qiáng.



硁 硁 鄙 夫 介,悠 悠 故 难 量。

Kēng kēng bǐ fū jiè, yōu yōu gù nán liàng.



慎 言 节 饮 食,知 足 胜 不 祥。

Shèn yán jié yǐnshí, zhī zú shèng bù xiáng.



行 之 苟 有 恒,久 久 自 芬 芳。

Xíng zhī gǒu yǒuhéng, jiǔ jiǔ zì fēnfāng.




อย่ากล่าวถึงความชั่วของผู้อื่น
การช่วยเหลือผู้อื่นนั้นไม่ต้องจดจำไว้
ชื่อเสียงภายนอกนั้นไม่เป็นสิ่งที่น่าใฝ่ใจ
การถ่อมตนนั้นเป็นสิ่งที่นักปราชญ์สรรเสริญ
แล้วความงามนั้นก็จะเป็นที่ประจักษ์
คำนินทานั้นมิอาจให้ร้ายคนได้
คนใจเย็นและใจกว้างต่างหากจึงเป็นสิ่งล้ำลึกที่หยั่งได้ยาก
ความสันโดษนั้นเหนือกว่ามงคลทั้งปวง
อย่าพูดถึงความดีของตัว
แต่หากได้รับความช่วยเหลือจากใครลืมไม่ได้เป็นอันขาด
มีแต่ความดีเท่านั้นที่ควรยึดเป็นหลักของชีวิต
ความรุ่งเรืองนั้นไม่พึงนำมาโอ้อวด
ทำการใดให้รอบคอบไว้ก่อน
ความอ่อนน้อมเป็นลักษณะของปุถุชนที่กล้าด้วยมานะ
ระมัดระวังในคำพูด มัธยัสในการกินอยู่
ถ้ายึดมั่นปฏิบัติด้วยความเพียร นานเข้าก็เกิดความหอมหวลขึ้นเอง